MonalisaTouch SkClinic

เลเซอร์รีแพร์ กระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากอิตาลี สำหรับคุณผู้หญิง ที่ประสบปัญหา ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดแห้งมีน้ำหล่อลื่นน้อย ตกขาว ช่องคลอดมีกลิ่น ปัสสาวะเล็ด เพิ่มความชมพูให้น้องสาว Monalisa Touch ช่วยท่านได้ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฟักฟื้น รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ปรึกษาคุณหมอ Tel:081 9658856

MonalisaTouch SkClinic

เลเซอร์รีแพร์ กระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากอิตาลี สำหรับคุณผู้หญิง ที่ประสบปัญหา ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดแห้งมีน้ำหล่อลื่นน้อย ตกขาว ช่องคลอดมีกลิ่น ปัสสาวะเล็ด เพิ่มความชมพูให้น้องสาว Monalisa Touch ช่วยท่านได้ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฟักฟื้น รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ปรึกษาคุณหมอ Tel:081 9658856

MonalisaTouch SkClinics

เลเซอร์รีแพร์ กระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากอิตาลี สำหรับคุณผู้หญิง ที่ประสบปัญหา ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดแห้งมีน้ำหล่อลื่นน้อย ตกขาว ช่องคลอดมีกลิ่น ปัสสาวะเล็ด เพิ่มความชมพูให้น้องสาว Monalisa Touch ช่วยท่านได้ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฟักฟื้น รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ปรึกษาคุณหมอ Tel:081 9658856

MonalisaTouch SkClinic

เลเซอร์รีแพร์ กระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากอิตาลี สำหรับคุณผู้หญิง ที่ประสบปัญหา ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดแห้งมีน้ำหล่อลื่นน้อย ตกขาว ช่องคลอดมีกลิ่น ปัสสาวะเล็ด เพิ่มความชมพูให้น้องสาว Monalisa Touch ช่วยท่านได้ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฟักฟื้น รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ปรึกษาคุณหมอ Tel:081 9658856

MonalisaTouch SkClinic

เลเซอร์รีแพร์ กระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากอิตาลี สำหรับคุณผู้หญิง ที่ประสบปัญหา ช่องคลอดหลวม ช่องคลอดแห้งมีน้ำหล่อลื่นน้อย ตกขาว ช่องคลอดมีกลิ่น ปัสสาวะเล็ด เพิ่มความชมพูให้น้องสาว Monalisa Touch ช่วยท่านได้ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฟักฟื้น รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ปรึกษาคุณหมอ Tel:081 9658856

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ทำเลเซอร์ รีแพร์ กระชับช่องคลอด ด้วย MonaLisa Touch ดีอย่างไร

ทำเลเซอร์ รีแพร์ ด้วย MonaLisa Touch ดีอย่างไร



   ทำเลเซอร์ รีแพร์ กระชับช่องคลอดด้วย Monalisa Touch นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากอิตาลี
    โดยอาศับ Fractional CO2 Laser ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะกับการฟื้นฟู ภายใน ช่องคลอดของคุณผู้หญิงที่เสื่อม หรือที่เรียกว่า Vaginal Atrophy โดยเป็นการฟื้นฟูการทำงานของ ช่องคลอดให้กลับมาเป็นปกติจากปัญหา
  • ช่องคลอดหลวม หรือหย่อนคล้อยเนื่องจากเยื่อบุช่องคลอดเสื่อม ช่วยกระชับช่องคลอดทำรีแพร์ เลเซอร์ กระชับช่องคลอด ด้วย MonalisaTouch
  • อาการตกขาว
  • ช่องคลอดมีกลิ่น  
  • ปัญหาช่องคลอดแห้ง มีน้ำหล่อลื่นน้อย
  • รู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • คัน หรือรู้สึกร้อนวูบวาบในช่องคลอด
  • ความรู้สึกลดลงในขณะมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่ถึงจุดสุดยอด
  • ปัสสาวะเล็ด
  • บริเวณจุดซ่อนเร้นมีสีคล้ำ

     Vaginal Atrophy

  • สภาพผิวของช่องคลอดแย่ลง อาจแห้งเหมือนผิวหนัง ไม่ชุ่มชื้น
  • เกิดปัญหาทางเดินปัสสาวะอักเสบได้
  • ปริมาณคลอลาเจนลดลง ช่องคลอดไม่ยืดหยุ่น
  • เป็นช่วงก่อนหมดประจำเดือน หรือประจำเดือนหมดเนื่องจากขาดฮอร์โมนเพศหญิง
  • ผู้หญิง 15-45% จะมีอาการร้อนวูปวาบ มีเลือดออกจากช่องคลอด ตกขาว
  • การไหลเวียนเลือดลดลง
  • ช่องคลอดแห้ง เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์


      Monalisa Touch เลเซอร์รีแพร์ ช่วยอะไรในช่องคลอด

  • เลเซอร์รีแพร์จะไปกระตุ้นไฟโบรบลาส ช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ภายในช่องคลอด
  • เลเซอร์รีแพร์จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนให้มีความแข็งแรง
  • เลเซอร์รีแพร์ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มความชุ่มชื้น
  • ช่วยเพิ่มเส้นเลือดให้มาหล่อเลี้ยงเซลล์มากขึ้น
  • ทำให้เยื่อบุภายในช่องคลอดหนาขึ้น
  • ฟื้นคืนสมดุลความเป็นกรดด่าง ในช่องคลอดให้อยู่ในประมาณ ph 5.5


     คำถามที่พบบ่อย

  • จะเห็นผลอย่างไร
    หลังการรับบริการ Monalisa Touch จะช่วยให้ลดอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เพิ่มน้ำหล่อลื่นทำให้
    ช่องคลอดไม่แห้ง
    ลดความรู้สึกร้อนวูปวาบ เพิ่มความรู้สึกที่ดีในขณะมีเพศสัมพันธ์
  • ควรทำกี่ครั้ง บ่อยแค่ไหน จะเห็นผลนานไหม
    การรับบริการควรทำ 3-5ครั้ง/ปี โดยเว้นระยะในการรับบริการแต่ละครั้งโดยประมาณ 4 สัปดาห์ หลัง
    รับบริการ
    Monalisa Touch ท่านจะเห็นรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงโดยประมาณ 3-7 วัน
  • ใช้เวลาฟื้นตัวนานไหม
    หลังทำ Monalisa Touch อาจเกิดอาการไม่สบายบริเวณช่องคลอดบ้าง และอาการจะหายไปภายใน
    1-2 วัน ให้งดเว้นจากการอาบน้ำร้อน มีเพศสัมพันธ์ ยกของหนัก หรือ ออกกำลังกาย อย่างน้อย 3 วัน


    สามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม ขอคำปรึกษาจากคุณหมอ เพิ่มเติมได้ที่
    Tel     :  081 9658856, 02 2744050, 02 6916865
    Email    :   SK@Skclinics.com
    Line ID :   skclinic
                              

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อาการตกขาว และวิธีรักษาเบื้องต้น

อาการตกขาว และวิธีรักษาเบื้องต้น

อาการตกขาว และวิธีรักษาเบื้องต้น
อาการแสดงของการอักเสบบริเวณปากช่องคลอด และในช่องคลอด Vulvovaginitis นั้น คือ
"อาการตกขาว"
  ซึ่งเป็นอาการที่นำให้สตรีมาพบแพทย์เสมอ แต่อาการการตกขาวที่พบนั้น ไม่จำเป็นต้องเกิด เพราะอาการอักเสบ เสมอไป อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเนื่องจากสภาวะ สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป เช่น ในสตรีที่มีครรภ์  ต่อมบริเวณปากมดลูกจะมีจำนวนพึ่มขึ้น และทำงานมากขึ้น ก็อาจทำให้มีอาการตกขาวมากกว่าธรรมดาได้  หรือในกรณีของต่อม Bartholin  ทำงานมากไป  เช่นในรายการที่การกระตุ้นทางเพศ หรือ  หรือการสำเร็จความใคร่ด้วย
ตัวเองก็อาจทำ ให้มีอาการตกขาวเกิดขึ่นได้ ดังนั้นแพทย์ผู้รักษา จำเป็นต้องนึกถึงการเปลื่ยนแปลงซึ่งเป็นปกติ ธรรมชาติเหล่านี้ด้วย ส่วนอาการตกขาว ชึ่งเบ็นอาการแสดงของ  Vulvovaginits นั้น ที่พบได้บ่อยและเสมอๆ

        ก็มีสาเหตุมากจาก  Trichomonads Candida albican Gonorrhea Nonspecific vaginitis และ Senile vaginitis ตลอดจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้า ไปอยู่ในช่องคลอด

        จากการซักประวัติผู้ป่วยร่วมกับการใช้การตรวจหาห้องทดลอง โดยใช้กล้องจุลทรรศน์โดยอาศัยทำ Hang drop preparatiion  คือ เอาน้ำเหลือ 1 หยอดผสมกับ ตกขาวจากช่องคลอดปิดด้วย Cover Slide แล้วตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ก็สามารถแยกโรคต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วใน ข้างต้นได้เกือบหมด คือสามารถพบตัว Trichomonads ขนาดโตกว่าเม็ดเลือดขาวเล็กน้อย เคลื่อนไหวไปมาได้ตลอดเวลา หรือพบ Myce;ium หรือ Conidia ของ Conidia albican  ซึ่งมีลักษณะเป็นปล้องๆ คล้ายท่อนอ้อย หรือไม่ไผ่ Gonorrhea และ Nonspecific ซึ่งเกิดจากเชื้อ Streptococus หรือ E. Coli นั้น แยกจากกันยาก เพราะจะพบแต่เม็ดโลหิตขาวเต็มไปหมด
             แต่หากอาศัยประวัติของการถ่ายปัสสาวะบ่อย แสบ และอาการปรากฏหลังที่มีการร่วมเพศใกล้กับเวลาที่จะมีประจำเดือน หรือเมื่อประจำเดือนหมดใหม่ๆ ร่วมกับการเลี้ยงเชื้อ หรือ ทำการย้อมด้วย Gram ก็จะแยกออกจากกันได้ ส่วน Senile Vaginitis นั้น อาศัยจากการซักประวัติในผู้ป่วยซึ่งอยู่ในวัยซึ่งหมดประจำเดือนแล้ว ตกขาวไม่ค่อยมีอาการคันมาก แพทย์ควรระลึกไว้เสมอว่า โรคต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เบีนโรคซึ่งติดต่อกันได้ใตยการร่วมเพศเป็นส่วนมาก ดังนั้นก็อาจพบ  Trichomonads ร่วม กับ Gonorrhea ได้และ ต้องรักษา Male Sexual Partner ด้วยเมื่อพบ  Trichomonads  ร่วมกับ Gonorrhea
      
        หากไม่มีกล้องจุลทรรศน์ หรือไม่อาจทำการตรวจภายในได้ การซักประวัติให้ละเอียดสักเล็กน้อยก็น่าจะช่วยแพทย์เวช ปฏิบัติทั่วไปได้ โดยอาศัยจะแยกเป็นโรคต่างๆ ได้ดังนี้
พวกที่เกิดการอักเสบจากเชื้อรา จะมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดมาก บริเวณขาหนีบจะแดง ตกขาวมีน้อย มักพบในสตรีอ้วน หรือใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน หรือ สตรีที่เป็นเบาหวาน และสตรีที่ตั้งครรภ์ ดังนั้นก็พอจะให้การรักษาโดยใช้ Nystantin

          (Mycostatin) สอดทางช่องคลอดวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 10 วัน ร่วมกับการรักษานี้ที่เป็นสาเหตุด้วย คือในพวกที่ใช้ยาคุมกำเนิด พวกที่ตั้งครรภ์ควรให้ Estrogen cream คือ Dicnestrol สอดทางช่องคลอดร่วมด้วย หากใช่แต่ Nystantin อย่างเดียวแล้วไม่หาย สตรีที่อ้วนก็ต้องให้การรักษาโดยทำให้บริเวณขาหนีบแห้งด้วยnารใช้แป้งโรยก็พอช่วยได้ ส่วนสตรึที่เป็นเบาหวานนั้นก็ต้องควบคุมเบาหวานให้ดี และแพทย์ควรระลึกไว้ด้วยว่า หากพบสตรี ที่มีโรคจากเชื้อราก็ควรจะนึกถึงสาเหตุชวนให้เกิดข้างต้นไว้ด้วย


อาการตกขาว


      Senile vaginitis นั้น ได้จากประวัติของสตรีสดรีที่อยู่ในวัยใกล้จะหมดประจำเดือนแล้ว สาเหตุเกิดเพราะขาด Estrogen อาการคันมีมาก อาจมีกลิ่นแต่ไม่ค่อยมีตกขาว หรือหากมีก็จะเป็นลักษณะน้ำใส่ๆ  กาวรักษาทำได้ 2 วิธี คือ สอดEstrogen cream คือ Dicncstrol วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 7 - 10 วัน อาการก็จะทุเลาหรือหายภายใน 48 ชั่วโมง หากจะให้รับประทาน Estrogen ก็ควรใช้ Conjugate estrogen คือ Premarin 0.625 มิลลิกรัมรับประทานก่อนนอนวันละครั้ง

      ข้อดีของการรักษาอาการตกขาวด้วยวิธีนี้ก็คือผู้ป่วยไม่ปฏิเสธที่จะได้

      รับการรักษาด้วยวิธีนี้ และยังเชื่อกันว่า Estrogen โดยการรับประทานทางปากจะช่วยป้องกัน Osteoporosis, Arteriosclerosis ได้ด้วย อาการแสดงว่า ได้รับEstrogen มากไป คือการเจ็บบริเวณเต้านม ก็ควรจะลดยาลงให้เหลือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ข้อคัดค้านในการให้ยานี้ก็ก่อนการเกิดมะเร็งเต้านม  หรือเลือด ออกทางช่องคลอคภายหลังที่ประจำเดือนหมดไปแล้ว ชึ่งก็อาจจะป้องกันได้ โดยตรวจเต้านมเสมอ ๆ ด้วยตัวผู้ป่วยเอง หากพบสิ่งผิตปกติก็ควรมาพบแพทย่ ส่วน Postmopausal
Bleeding เนื่องจากการใช้ยาขนาดนี้พบได้น้อยมาก หากพบก็ต้องทำการขูดมดลูกเพื่อ Exclude
มะเร็งของโพรงมดลูกออกไป ดังนั้นหากผู้ป่วยยอมรับการใช้ Estrogen cream สอดทางช่องคลอดก็จะไม่ต้องนึกถึงมะเร็งของเต้านม และเลือดออก
Nonspecific vaginitis ที่พบได้บ่อยมักเกิดจากเชื้อ Hemophilus vaginalis ตกขาวมีลักษณะเป็นน้ำใส่ๆ เเละ มีกลินเหม็นคาว ก็น่าจะนึกถึงโรคนี้


         การรักษาอาการตกขาวนั้นใช้ Talsutrin

         สอดในช่องคลอด วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 10 วันก็จะหายได้ หรือจะให้รับประทาน Ampicillin 500 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งเป็นเวลา 5 วันก็ได้ Male sexual partner นั้นรักษาด้วย Amplcillin ขนาดเดียวกัน
Trichomonads vaginalis vaginitis นั้นจะให้อาการเหมือน Hemophilus vaginitis อยู่อย่างหนึ่งคือ มีกลิ่นเหม็น แต่ตกขาวจะมีมากเบ็นฟอง หากมี Gonorrhea อยู่ด้วย ตกขาวจะข้นคล้ายหนอง การรักษาให้ Tinidazole (Fasigyn) รับประทานครั้งเดียว 1.8-2 กรัมได้ผลดีมาก อาการหายไปใน 24-48 ชั่วโมง การรักษา Male sexual partner ก็ใช้ ขนาดเดียวกันก็ได้

         Gonorrhea vaglnitis นั้น อาศัยประวัติจากการร่วมเพศใกล้กับเวลาที่จะมีประ จำเดือน หรึอประจำเดือนหมดใหม่ๆ มีอาการทางกระเพาะปัสสาวะ คือ ถ่ายบ่อย แสบเวลาที่จะสุด ตกขาวจะคล้ายหนอง รักษาโดยการให้ Prebenccid 1 กรัม ร่วมกับ Ampicillin 3.5 กรัม ครั้งเดียวก็จะหายอาการนี้ภายใน 48 ชั่วโมง หากอากาวตกข่าวไม่หาย ต้องนึกถึงว่าอาจมี Trichomonas vaginitis ร่วมด้วย ต้องรักษาเสีย หากผู้ป่วยแพ้ Penicillin อาจให้Tetracyclines 1.5 กรัม รับประทานทันที ต่อไปให้ 500 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 4 วัน  

          Nonspecific vaginitis ที่เกิดจากเชื้อตัวอื่นๆ ก็อาจให้การรักษาด้วย Talsutin เช่น เดียวกับ Hemophilus vaginitis หรือใช้  Sultrin ก็ได้vaginitis ในเด็ก ส่วนมากจะเกิดเพราะ Gonorrhea หรือมีสิ่งแปลกปลอมซึ่งเด็กสอดเข้าไปอีก ก็ศึกษาตามสาเหตุ

           Pruritus vulvas  คืออาการคันบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งก็เนื่องมาจาก Vulvo vaginitis ดังนั้นต้องรักษาโรคที่เป็นสาเหตุดังกล่าวมาแล้ว ร่วมกับการให้  Topical steroid เช่น Synalar ทาวันละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้ลดอาการคันลงได้

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ยาที่ใช้ในกรณีตกขาวผิดปกติ

ยาที่ใช้ในกรณีตกขาวผิดปกติ


       เมื่อได้รับการตรวจจากแพทย์แล้วว่า อาการตกขาว ผิดปกติของคุณเกิดจากเชื้อโรคชนิดไหน เราก็น่าจะทำความเข้าใจถึงยาที่คุณต้องใช้ ทั้งขนาดวิธีใช้ที่ถูกต้อง และผล ข้างเคียงของยาที่อาจเกิดขื้น โดยจะขอแบ่งประเภทของยาตามชนิดของโรคที่เป็น ดังนี้

ยาตกขาว

  ยาที่ใช้ ในกรณี โรคหนองใน หรือ โกโนเรีย ยาที่ใช้รักษาได้ผลดีคือ ยาปฏิชีวนะพวกเพนนิซีลิน (Penicillin) ยากลุ่มเพนนิซีลินที่นิยมใช้ในกรณีนี้มีหลายตัว เช่น เพนนิซิลีน  (Penicillin G), แอมพิซิน(Ampicilliln) ม็อกซิซิลิน( Amoxicillin) เป็นต้น ในการฉีดเพนนิชิลิน จี มักจะใช้ในรูป ของ โปรเคน เพนนิซิลิน ฟอรติโฟด์ ( Procaine Penicillin Fortified = PPF ) ชาวบ้านมักเรียกสั้นๆ ว่าโปรเคน ออกฤทธิ์ไค้นาน ใช้ฉีดครั้งเดียวขนาด และ ระยะเวลา ที่ใช้ (เลือก ใช้เพียง อย่างเดียว)

  1. PPF (โปรเคน) ใช้ 4.8 ล้านหน่วย ฉีคเข้ากล้าม โดยอาจฉีดครั้งเดียวหรือแบ่งฉีด 2 ครั้ง
  2. แอมพิซิลิน (เช่น Pentrexyl, Penbritin)กิน 3.5กรัม (เม็คละ 500 มิลลิกรัม 7 เม็ด) เพียงครั้งเดียว
  3. อาม็อกซิซิลิน  (เช่น lbiamox, Hiconcil, Amoxil 1.75กรัม ครั้งเดียว (เม็ดละ 250 มิลลิกรัม 7 เม็ด)
       ยานี้คล้ายแอมพิชิลิน แต่ถูกดูดซึมได้มากกว่าแอมพิชิลิน 2 เท่า ขนาดรับประทานจึงลดลงครึ่งหนึ่งในขนาดที่กำหนดควรกินโพรเบนเนชิด 1 กรัม (Probenecid)
ก่อนกินยาเพนนิซิลินสักครึ่งชั่วโมง โพรเบนเนซิด

ตกขาวที่ผิดปกติ จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปหาแพทย์

 

ตกขาวปรึกษาหมอ

ตกขาวที่ผิดปกติ จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปหาแพทย์


        จำเป็นมากคะ เพราะว่า พวกนี้นอกจากคุณจะยอมทนเป็นวันเบาๆ ตลอดไป หรือว่าจะต้องคอยแอบเกาบริเวณอวัยวะเพศบ่อยๆ  แล้วทิ้งไว้ต่อไป ก็อาจจะเกิดอันตรายไค้ ถ้าหากคุณไปตรวจ แพทย์ก็จะตรวจภายใน และเอาตกขาวไปส่องกล้องดู เพื่อที่จะได้ทราบแน่นอนว่า สาเหตุเกิดจากอะไร เพื่อที่จะให้การรักษาที่ถูกต้อง ดังนั้น ถ้าหากจะไปหาแพทย์เพื่อตรวจเกี่ยวกับตกขาว ก็อย่าไปตอนมีตกแดง หรือช่วงมีประจำเดือนเพราะแพทย์ก็ไม่สามารถ บอกได้ว่า ตกขาว เกิดจาก สาเหตุ อะไรหรือผู้หญิง บางคน ด้วยความที่อายเเพทย์ หรือ อย่างไรก็ไม่ทราบก่อนที่จะไป ก็ล้างช่องคลอดทั้งข้างนอก และข้างในจนสะอาดเกลี้ยงเกลา แพทย์ก็ตรวจไม่พบอะไรเหมือนกัน หรือบางทีก็ใส่ยาอะไรเข้าไปในช่องคลอดเวลาตรวจก็พบแต่ยา ดังนั้นถ้าหากจะ ตรวจเกี่ยวกับตกขาว ก็ควรปฏิบัติดังนี้

  1. อย่าไปตอนมีประจำเดือน
  2. อย่าล้างช่องคลอดก่อนไปตรวจ
  3. ห้ามใส่ยาอะไรเข้าไปในช่องคลอดก่อนตรวจ

       ตกขาวที่ผิดปกติรักษาเองได้หรือไม่?

       ตกขาวที่ผิดปกติไม่ควรรักษาเอง เพราะไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งสาเหตุในแต่ละอย่าง ยาที่ให้การรักษาก็ไม่เหมือนกัน การรักษาบางครั้งก็อาจจะต้องรักษาทั้งสามี และภรรยายาที่รักษาก็อาจเป็นยาทาน หรือเป็นยาฉีดและยาเหน็บช่องคลอด ซึ่งยาที่เหน็บช่องคลอด ถ้าหากมีอลูมิเนียมห่ออยู่ก็ควรที่จะแกะออกเสียก่อน การเหน็บยาในช่องคลอด ก็ใส่เข้าไปในช่องคลอดลึกๆ และไม่ต้องกลัวหรอกว่า มันจะตกลงพื้นเวลาเดินให้เป็นที่อับอาย ยาที่เหน็บช่องคลอดนี้ มันจะละลายอยู่ในช่องคลอด บางครั้งมันก็อาจออกมาข้างนอกบ้าง การเหน็บยานี้กินเวลาประมาณ 7-10 วัน ระหว่างการรักษาอยู่นี้ก็ควรงดร่วมเพศ จะเห็นว่าตกขาวที่ผิดปกตินั้น นอกจากจะทำความรำคาญให้แก้ผู้หญิงแล้ว ก็อาจจะแพร่เชื้อต่อไปให้คนอื่นด้วย การรักษาให้หายขาดนั้นทำได้ง่าย ดังนั้นสุภาพสตรีผู้ใดที่มีตกขาว อย่ามัวไปทนเกาด้วยความสนุกสนาน หรือซื้อยามารักษาด้วยตัวเองอยู่เลยนะคะ ควรที่จะรีบไปให้แพทย์ตรวจดีกว่านะคะ

ตกขาว อาการตกขาวเกิดขึ้นได้อย่างไร ตกขาวมีกี่ประเภท

  ตกขาว


ตกขาว
ตกขาวเป็นอาการที่พบบ่อยในการตรวจคนไข้ทางนรีเวช ทุกๆ ท่านคงจะทราบเเล้วว่าตกขาวคืออะไร เป็นภาวะที่มีน้ำสีขาว ๆ ออกมาทางช่องคลอดสตรีทุกคน ตั้งแต่เริ่ม มีประจำเดือน จนกระทั่งวันหมอประจำเดิอน ตามปกติแล้ว ก็ย่อมจะมีน้ำใสๆ หล่อลื่นอยู่ในช่องคลอดตลอตเวลา ซึ่งมิได้เป็นสิ่งผิดปกติ สตรีบางคนจากการที่รู้สึกวามีน้ำอยู่ในช่องคลอดเป็นอาการผิดปกติ ก็ควรจะเข้าใจเสียใหม่  ถ้าหากกว่าต้องการให้ในช่องคลอดแห้งผากเป็นใบตองแห้ง ก็ต้องรอจนอายุประมาณ 60-70 ปี
ช่องคลอดของสตรีประกอบด้วยเนื้อเยื้อที่บอบบางมาก  ถ้าจะนึกง่ายๆ ก็คล้ายกับช่องปาก แต่ว่าช่องคลอด ไม่จำเป็นต้องล้างทุกวัน เหมือนกับการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง สตรีบ้างท่านอาจชอบทำความสะอาดมากเหลือเกิน ก็เลยต้องล้างช่องคลอควันละหลายครั้ง บางคนเพื่อให้แน่ใจก็ได้ใช้พวกน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ด้วยซึ่งจากการกระทำอันนี้จะเป็นผลให้ช่องคลอดเกิดการระคายเคืองมากขึ้น ทำให้มีตกขาวมากขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำทีผิด สูติ-นรีแพทย์ มักจะแนะนำไม่ให้ล้างภายในช่องคลอดในช่วงภาวะปกติ

    อาการตกขาวอย่างไรถือว่าผิดปกติ และควรไปพบแพทย์

    ถ้าหากจะคิดง่ายๆ ก็คือตกขาวที่มีมาก จนกระทั่งใช้ผ้าอนามัยขนาดเท่ากับวันเบาๆ หรือว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาการแสบเวลาปัสสาวะ ปวดหรือคันในช่องคลอด หรือ ว่าลักษณะ ตกขาวมีตกแดงปนมาด้วย คือ เป็นสีธรรมศาสตร์(เหลืองแดง)  หรือว่าสีจุฬา (ชมพู)   
อาการตกขาว


 อาการตกขาวที่ผิดปกตินั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ตกขาวเกิดขึ้นได้อย่างไร
      ตกขาวนั้นเป็นการอักเสบภายในช่องคลอด และปากมดลูกสาเหตุเกิดจาก เชื้อโรคเข้าไปภายใน เชื้อโรคเข้าไปได้อย่างไรนั้น ก็เป็นได้หลายวิธี มิใช่ว่าอยู่ๆ เชื้อโรคมันกระโดดเข้าไปเอง ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการร่วมเพศ หรือในภาวะบางอย่างที่ร่างกายอ่อนแอลง  เชื้อโรคมันก็เจริญเติบขึ้น

       อาการตกขาวที่ผิดปกติ อาจจะแบ่งได้เป็น 4 พวกใหญ่ๆ คือ


  1. โรคหนองใน หรือ โกโนเรีย (Gonorrhea) โรคนี้เกิดจากการร่วมเพศ กับบุรุษที่เป็นโรคหนองในอาการในสตรี ส่วนใหญ่จะมีตกขาวลักษณะคล้ายหนอง มักจะมีอาการปวดปัสสาวะแสบร่วมอยู่ด้วย มักจะเป็นหลังจากได้รับเชื้อเข้าไป ประมาณ 3-4วัน ในรายที่เป็นมาเรื้อรัง หรือนานๆ ก็อาจจะไม่มีอาการอย่างอื่นนอกจากตกขาวอย่างเดียว และสตรีผู้นี้ก็ สามารถปล่อยเชื้อไปให้แก่บุรุษที่มาร่วมเพศได้ทุกคน

  2. พยาธิในช่องคลอด ทางแพทย์เรียกตัวย่อว่า ทีวี.(Trichomomas Vaginalis) ซึ่งอันนี้เป็นทีวีช่องปัสสาวะ และช่องคลอด การติดเชื้อก็จากการร่วมเพศเหมือนกัน ในผู้ชายมักจะไม่มีอาการอะไรนอกจากเป็น แหล่งที่จะเเพร่เชื้อ อาการก็จะมีตกขาวเป็นฟอง ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีอาการคันบริเวณช่องคลอดร่วมด้วย พวกนี้ถ้าหากเอาตกขาวไปส่องกล้องดู  ก็จะเห็นพยาธิตัวกลมๆ มีหนวดเสียด้วย กำลังวิ่งเล่นกันอย่าง สนุกสนาน ดังนั้นการรักษาให้หายขาดก็จำเป็นที่จะต้องรักษาทั้งฝ่ายหญิง และฝ่ายชาย

  3. การอักเสบจากเชื้อรา พวกนี้มักเกิดขึ้นในผู้หญิง ระหว่างตั้งครรภ์ หรือในภาวะที่ร่างกายอ่อนแอ ที่พบบ่อยอึกพวกคือ คนที่เป็นเบาหวาน จะเห็นว่าในพวกนี้อาจจะเกิดขึ้น เองโดยไมได้เป็นผลจากการร่วมเพศก็ได้ ลักษณะตกขาวจะมีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆ คล้ายกับนม และมักจะมีอาการคันร่วมด้วยเสมอ บางคนกว่าจะมาหา แพทย์ก็เกาเสียจนอวัยวะเพศ ถลอกปอกเปิกไปเลยก็มี ถ้าหากเอาตกขาว ไปส่องกล้องดู ก็จะเห็นเชิ้อราลักษณะ เป็นเส้นๆ เต็มไปหมด

  4. การอักเสบที่เกิดจากเชื้อโรคทั่วๆ ไป พวกนี้จะมีอาการตกขาวส่วนมากแล้วไม่คัน มักจะมีอาการปวดบ้างเล็กน้อย ถ้าหากเอาตกขาวมาส่องกล้องดูก็จะไมพบเชื้อที่กล่าวมาแล้ว แต่จะพบเม็ดเลือดขาวเป็นจำนวนมาก